ณ วินาทีนี้ จะไม่พูดก็คงไม่ได้ เปิดตัวกันมาแล้วค่ะ กับ Galaxy S21 serirs 5G ซึ่งจะมีอะไรใหม่ๆ น่าตื่นเต้นกันบ้าง มาดูกันค่ะ
- Galaxy S21 series 5G มาพร้อมกับดีไซน์ที่สวยงาม บางเบา นำเสนอจอแสดงผลแบบ Dynamic AMOLED 2X Infinity-O 120Hz พร้อมอัตราการปรับรีเฟรชเรทโดยอัตโนมัติตามประเภทของเนื้อหา โดยGalaxy S21 5G มาพร้อมหน้าจอขนาด 6.2 นิ้ว ในขณะที่ Galaxy S21+ 5G โดดเด่นด้วยจอใหญ่เต็มตาขนาด 6.7 นิ้ว
- สร้างความแตกต่างด้วยการดีไซน์กล้องหลังโฉมใหม่สไตล์ ‘คอนทัวร์ คัท (Contour cut)’ สุดไอคอนิกที่ผสานเข้ากับกรอบโลหะเพรียวบางบนวัสดุผิวด้านแบบ Haze Finish บริเวณด้านหลัง สะท้อนความเรียบหรู อีกทั้งยังมีหลายสีใหม่ให้เลือก รวมถึงสี Phantom Violet อันเป็นเอกลักษณ์
- ให้ภาพที่ดีที่สุดกับฟีเจอร์ใหม่Director’s View กับการแสดงมุมมองได้หลากหลายเลนส์ก่อนถ่ายจริง เพื่อให้ผู้ใช้เลือกเปลี่ยนเลนส์ได้ง่ายๆ ว่าจะถ่ายซูม หรือมุมกว้าง Vlogger View ที่สามารถบันทึกภาพจากทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังได้พร้อมกัน รวมถึงการแสดงภาพตัวอย่าง ด้วยLive Thumbnails เพื่อนำเสนอมุมมองผ่านเลนส์อื่นๆ การซูมภาพ หรือการเปลี่ยนเป็นภาพมุมกว้างได้อย่างต่อเนื่องไม่มีสะดุด
- กล้องสามเลนส์ระดับโปรที่ทำงานร่วมกับ AI ให้ผลลัพธ์ของภาพที่คมชัดมากกว่าเดิม ด้วย Zoom Lock ใหม่ที่ให้ AI กำหนดจุดโฟกัสให้อยู่ตรงกลางเฟรม เพื่อลดผลกระทบจากอาการมือสั่นเมื่อบันทึกภาพด้วยการซูม 30 เท่า
- วิเคราะห์ได้แม่นยำยิ่งขึ้นในโหมดถ่ายภาพบุคคล (Portrait Mode) กล้องจะใช้ระบบการวิเคราะห์แบบ 3 มิติเพื่อแยกวัตถุออกจากพื้นหลัง รวมถึงยังมีตัวเลือกสำหรับการจัดแสงในสตูดิโอเสมือนจริง (Virtual studio) และเอฟเฟกต์พื้นหลังจาก AI เพื่อให้วัตถุโดดเด่นขึ้นมา
- มาพร้อมกับ One UI 3.0 ใหม่ ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดสรรการใช้ชีวิตในแต่ละวันได้อย่างอิสระ พร้อมแบ่งวิดเจดการแจ้งเตือนออกเป็นหมวดหมู่ที่สังเกตได้ง่าย สามารถใช้งานร่วมกับพีซี รวมถึงปรับการแสดงผลให้เหมาะสมกับหน้าจอแบบอัตโนมัติ
- ความจุแบตเตอรี่ที่มากขึ้นเพื่อให้เหล่าเกมเมอร์และสายซีรีส์ได้เพลิดเพลินกับคอนเทนต์อย่างต่อเนื่องไม่มีสะดุด โดย 4,000 mAh สำหรับ Galaxy S21 5G และ 4,800 mAh สำหรับ Galaxy S21+ 5G
- เพิ่มระบบความปลอดภัยให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นด้วย Samsung Knox Vault ให้ผู้ใช้สามารถลบข้อมูล Metadata ของตำแหน่งที่อยู่ออกจากรูปภาพก่อนทำการแชร์ได้ และด้วยฟังก์ชันPrivate Share ผู้ใช้ยังสามารถกำหนดรายชื่อบุคคลที่จะเข้าถึงเนื้อหา พร้อมทั้งระยะเวลาในการเข้าใช้งาน เพื่อการแบ่งปันเนื้อหาได้อย่างไร้กังวล
เรียกเสียงฮือฮาขึ้นไปอีกขั้นด้วยการเปิดตัวGalaxy S21 Ultra 5G แฟลกชิปที่พร้อมมอบประสบการณ์ความเป็นที่สุดในทุกด้าน
- ถูกออกแบบให้ทนทานยิ่งขึ้นด้วยหน้าจอกระจก Corning® Gorilla®Glass Victus™ ซึ่งนับเป็น Gorilla Glass ที่แข็งแรงที่สุด โดย Galaxy S21 Ultra 5G มีให้เลือกทั้งหมด 2 สี ได้แก่ Phantom Black และ Phantom Silver บนวัสดุผิวด้านแบบ Haze Finish สุดคลาสสิก
- หน้าจอแสดงผล Dynamic AMOLED 2X ขนาด 6.8 นิ้ว ครั้งแรกกับการมอบประสบการณ์ การแสดงผลที่ลื่นไหลจากอัตรารีเฟรชเรท 120Hz และจอแสดงผล Quad HD+ พร้อมกัน โดยอัตรารีเฟรชเรทของหน้าจอนั้น ยังสามารถปรับระดับที่ 10Hz ถึง 120Hz ตามเนื้อหาได้โดยอัตโนมัติ
- กล้องหลัง 4 ตัว รวมถึงเซ็นเซอร์แบบโปรเวอร์ชั่นใหม่ขนาด 108MP ซึ่งเป็นเซ็นเซอร์กล้องที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาในสมาร์ทโฟนซัมซุง ให้ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพ 12 bit HDR ด้วยสีสันที่คมชัดมากขึ้นถึง 64 เท่า และช่วงไดนามิกกว้างขึ้นกว่า 3 เท่ารวมถึงการบันทึกไฟล์ Raw 12-bits[3]มาตรฐาน DSLR ไม่เสียรายละเอียดความคมชัด
- ครั้งแรกกับการถ่ายวิดีโอระดับ 4K ที่ 60fps ได้จากทุกกล้อง ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง
- มาพร้อมกับ Space Zoom 100x ที่ขับเคลื่อนโดยระบบเลนส์เทเลแบบคู่ (Dual-tele) ตัวแรกของซัมซุง ซึ่งแบ่งเป็นออพทิคอล (Optical) 3x จำนวน 1 กล้อง และออพทิคอล 10x จำนวน 1 กล้อง โดยทั้งคู่ติดตั้ง Pixel (2PD) AF ที่ทำให้สามารถถ่ายภาพได้อย่างคมชัดไม่ว่าจะอยู่ไกลแค่ไหน
- เซ็นเซอร์ Bright Night เวอร์ชั่นใหม่ ลดจุดรบกวนของภาพ (Noise reduction) และเทคโนโลยี Nona-binning 12MP ทำให้ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพภายในห้องที่มีแสงน้อย หรือทิวทัศน์ในเวลากลางคืนได้ดียิ่งขึ้น
- ครั้งแรกของ Galaxy S series ที่รองรับปากกาอัจฉริยะ S Pen ช่วยให้ผู้ใช้สามารถวาดภาพ จดโน้ต แต่งภาพ และเซ็นเอกสารได้ไม่ต่างจากGalaxy Note หรือ Galaxy Tab อีกทั้งยังรองรับ S Pen Pro ที่รองรับ Air Action ได้อีกด้วย
- สมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่รองรับ Wi-Fi 6E[4] ซึ่งจะมอบแบนด์วิดท์ (Bandwidth) ที่มากกว่า และการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตที่เร็วกว่าเดิม
ขั้นกว่าของการเชื่อมต่ออย่างชาญฉลาดบนกาแลคซี่ อีโคซิสเต็มในทุกที่ทุกเวลา
- เปลี่ยนบ้านให้กลายเป็นสมาร์ทโฮม (Smart Home) อย่างง่ายดายด้วยการทำงานร่วมกับ Google Nest ในการเชื่อมต่อกับ Google Assistantเพื่อเป็นตัวกลางในการเข้าควบควบคุมอุปกรณ์ IOT ต่างๆภายในบ้าน
- ให้ผู้ใช้สามารถใช้งาน Galaxy S21 series 5G เพื่อควบคุมสมาร์ทดีไวซ์ต่างๆ ที่อยู่ในบ้านได้ตรงจากรถของคุณ ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมอุณหภูมิในบ้าน เปิดปิดประตูไฟฟ้า ความสว่างของบ้าน เครื่องซักผ้า รวมถึงหุ่นยนต์ดูดฝุ่น เพียงแค่เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนเข้ากับรถยนต์ที่รองรับ Android Auto ผ่านแอปพลิเคชัน SmartThings
สรุปเลยนะคะ บอกได้คำเดียวว่า สาวกของ Samsung ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง ตัวนี้คุ้ม ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน เดี๋ยวมารอลุ้นราคาในไทย และราคาโปรโมชั่นกับ โอปเรเตอร์กันต่อค่ะ