ดีแทค ไตรเน็ต เตรียมฉลองความสำเร็จหลังเปิดตัวครบ 1 ปี ชูแคมเปญแจกทอง 50 วัน 55 ล้านบาท รุกขยายการให้บริการคลุมพื้นที่ 3G ทั่วไทย เร่งเพิ่มคุณภาพการใช้งานบนโครงข่าย พร้อมเปิดให้บริการ 4G LTE บนคลื่น 2100 MHz มั่นใจต่อยอดประสบการณ์ใหม่รองรับความต้องการใช้งานอินเทอร์เน็ตบนสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต ตั้งเป้าผู้ใช้ 4G LTE ประมาณ 1 ล้านรายสิ้นปี
นายจอน เอ็ดดี้ อับดุลลาห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค กล่าวว่าดีแทค ไตรเน็ตได้เปิดให้บริการมาครบ 1 ปี หลังเปิดตัวเมื่อ 9 พฤษภาคมปีที่แล้ว ด้วยการรวมเอาเครือข่ายบนคลื่น 1800 MHz คลื่น 850 MHz และคลื่น 2100 MHz เข้าไว้ด้วยกัน บนแบนด์วิธที่กว้างที่สุด ขณะนี้มียอดผู้ใช้งานบนโครงข่ายใหม่ดีแทค ไตรเน็ต จำนวน 15.9 ล้านเลขหมาย จากจำนวนฐานลูกค้าดีแทครวมทั้งหมด 28.2 ล้านเลขหมาย (ข้อมูล ณ ไตรมาส 1 ปี พ.ศ. 2557) โดยลูกค้าดีแทค ไตรเน็ตได้สัมผัสประสบการณ์ 3G ที่เหนือกว่าบนคลื่น 2100 MHz ทั้งนี้ได้ตั้งเป้าจำนวนผู้ใช้งานบนโครงข่ายใหม่ดีแทค ไตรเน็ตเพิ่มอย่างน้อย 22 ล้านเลขหมายในสิ้นปีนี้
“ดีแทค ไตรเน็ต ได้สร้างปรากฏการณ์การใช้งานอินเทอร์เน็ตในสังคมทำให้มีผู้ใช้บริการสูงขึ้น โดยมียอดผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตบนมือถือขณะนี้ 9.1 ล้านราย (เฉพาะผู้ใช้งานที่มียอดการใช้งานอินเทอร์เน็ตบนมือถือมากกว่า 50 กิโลไบต์ต่อเดือน)” นายจอน กล่าว
ทั้งนี้ ในโอกาสที่ดีแทค ไตรเน็ตครบรอบ 1 ปี ได้ออกแคมเปญฉลองความสำเร็จโดยแจกทอง 50 วัน 55 ล้านบาท เริ่มตั้งแต่ 12 พฤษภาคม เป็นต้นไปจนครบ 50 วัน แก่ผู้ที่โอนย้ายดีแทคสู่ดีแทค ไตรเน็ต หรือย้ายค่ายมาใช้งานดีแทค ไตรเน็ต รวมทั้งเปิดเบอร์ใหม่หรือซิมใหม่ทั่วประเทศ เพียงเท่านี้มีสิทธิ์ลุ้นรับทองทุกวันมูลค่า 1 ล้านบาทต่อวัน (จำนวนวันละ 10 รางวัล รางวัลละ 1 แสนบาท) โดยจะแจก 50 วัน และยังให้ลูกค้าบนดีแทค ไตรเน็ตทุกหมายเลขร่วมลุ้นทองในช่วงท้ายแคมเปญอีกมูลค่า 5 ล้านบาท รวมทองทั้งสิ้นมูลค่า 55 ล้านบาท
ดีแทค ไตรเน็ตยังมุ่งมั่นพัฒนาโครงข่ายต่อไป โดยเพิ่มพื้นที่การใช้งาน 3G ให้ครอบคลุม โดยเร่งขยายเสาสัญญาณทุกพื้นที่ให้เป็น 3G ภายในเดือนมิถุนายนนี้ โดยจะครอบคลุมประชากรประมาณ 85% เพื่อช่วยในการเข้าถึงบริการ 3G มากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะพื้นที่ห่างไกล และยังเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพความเร็วในการใช้งานของอินเทอร์เน็ต ตอบสนองทุกการสื่อสารได้อย่างเต็มประสิทธิภาพรองรับทุกการใช้งานของสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต นอกจากนี้ยังเริ่งเพิ่มคุณภาพของสัญญาณรองรับพื้นที่การใช้งานหนาแน่น โดยการมุ่งสู่การดำเนินการทั้งแบบ Macro site และ Micro site ให้ครอบคลุมพื้นที่ต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่มีการเติบโตการใช้งานบนสมาร์ทโฟนสูงอย่างต่อเนื่อง และต้องการประสิทธิภาพ 3G สูง
นาย จอน กล่าวเพิ่มเติมว่า “วันนี้ดีแทค ไตรเน็ตพร้อมแล้วที่จะนำ 4G LTE บนคลื่น 2100MHz มาสู่ผู้ใช้บริการเพื่อเพิ่มประสบการณ์ใหม่ รองรับความต้องการใช้งานอินเทอร์เน็ตบนมือถือที่สูงขึ้นในเขตกรุงเทพชั้นใน ครอบคลุมพื้นที่ เช่น พระรามสี่ สาทร สีลม คลองเตย พญาไท สุทธิสาร รัชดาภิเษก ดินแดง เป็นต้น ด้วยอุปกรณ์โครงข่ายที่ทันสมัยที่สุดในประเทศผู้ใช้งานดีแทค ไตรเน็ตที่ใช้บริการ 4G เมื่อเข้าสู่พื้นที่การใช้งานโครงข่ายจะเลือกให้เข้าสู่การใช้งานบน 4G LTE 2100MHz ทันที พร้อมสลับคลื่นความถี่ให้เหมาะสมสำหรับการใช้งานทุกรูปแบบ ในทุกพื้นที่โดยอัตโนมัติ นอกจากผู้ใช้งาน 4G LTE จะได้รับประสบการณ์การใช้งานดาต้าที่ดีขึ้น เช่น การดาวน์โหลดคลิปวิดีโอ ภาพยนตร์ หรือคอนเทนท์ ทั้งแอพลิเคชั่น dtac Watchever, dtac Readever หรือ dtac DEEZER ยังเป็นการ Offload หรือช่วยการใช้งาน 3G ในบริเวณที่มีการใช้งานหนาแน่น ให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นด้วย โดยตั้งเป้าผู้ใช้งาน 4G LTE ประมาณ 1 ล้านรายในสิ้นปีนี้”
ทั้งนี้ ดีแทค เชื่อว่าการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตคือการให้โอกาส และสร้างความเท่าเทียมกันในการเข้าถึงข้อมูลของ ทุกคน จึงได้มุ่งสู่พันธกิจ Connecting Everyone by 2015 – Internet for all โดยใน ปีพ.ศ. 2558 ดีแทคตั้งเป้าให้ลูกค้าดีแทคทุกคนสามารถเข้าถึงประสบการณ์ในการใช้งานอินเทอร์เน็ตบนมือถือ หรือแท็บเล็ต ทั้งนี้ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตสังคมไทย เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันโดยรวมให้กับประเทศ และเชื่อมต่อช่องว่างในการเข้าถึงเทคโนโลยีสารสนเทศ (Digital Divide)
เกี่ยวกับดีแทค
บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค เป็นหนึ่งในผู้นำการให้บริการโทรศัพท์มือถือของประเทศไทยแก่ผู้ใช้บริการประมาณ 28.2 ล้านเลขหมายในปัจจุบัน ดีแทค ก่อตั้งขึ้นในเดือนสิงหาคม ปี 2532 ตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ดีแทคมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาเครือข่าย เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางธุรกิจ ยกระดับคุณภาพชีวิตและตอบสนองความต้องการของผู้ใช้บริการโดยการพัฒนาเทคโนโลยี และเพิ่มคุณภาพของบริการอย่างต่อเนื่อง สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ดีแทค (บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ประเทศไทย: DTAC) ชมข้อมูลได้ที่ www.dtac.co.th
บรรยายภาพ (4Gdtac_0754) จากขวา – ผู้บริหารดีแทคนำโดย นายจอน เอ็ดดี้ อับดุลลาห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร, นายซิกวาร์ท โวส เอริคเซน รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการตลาด และนายปกรณ์ พรรณเชษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการตลาด ร่วมแนะนำ 4G บน dtac TriNet พร้อมเปิดให้ผู้บริโภคในกรุงเทพฯ ได้ใช้งานแล้วภายใต้แนวคิด ‘I’m 4. I See Beyond’
dtac TriNet celebrates first anniversary with 55-million Baht gold giveaway campaign over 50 days and prepares to launch 4G LTE in inner Bangkok
May 9, 2014 – As part of its first anniversary celebration, dtac TriNet is launching a campaign to give away 55 million Baht worth of gold over 50 days and continue to expand 3G coverage nationwide and improve service quality on its network. dtac is also stepping up to enhance mobile data experience on smartphones and tablets by launching 4G service on 2100 MHz frequency, with a target to reach 1 million 4G LTE subscribers by year end.
Jon Eddy Abdullah, Chief Executive Officer, Total Access Communication PLC. or dtac, said that dtac TriNet has been operating for one year since the launch on May 9, 2013 when we introduced dtac TriNet as the only intelligent network that combines 3 frequency bands – 1800 MHz, 850 MHz, and 2100 MHz, resulting in the widest bandwidth available. Today, dtac TriNet has 15.9 million subscribers, who experience superior 3G on 2100 MHz, compared to dtac’s total subscribers of 28.2 million (data as of Q1 2014). dtac TriNet targets to reach at least 22 million subscribers by the end of this year.
“dtac TriNet has greatly contributed to the growth of internet usage in the society. Our data subscribers have reached 9.1 million, excluding active subscribers who use less than 50 KB of data per month”, said Jon.
To mark its first anniversary, dtac TriNet is launching a celebration campaign that gives its customers a chance to win gold worth a total of 55 million Baht over the course of 50 days. Eligible participants are existing customers switching from dtac to dtac TriNet, porting-in customers, and customers with new number or new SIM card. There are 50 daily lucky draws that give out 10 daily prizes of 100,000 Baht each, totaling 1 million Baht per day. On top of that, all dtac TriNet customers have a chance to win gold worth of 5 million Baht at the final draw, totaling 55 million Baht worth of prizes for the entire campaign.
dtac TriNet is dedicated to network improvement by expanding 3G coverage and upgrading remaining base stations to 3G by June this year in order to cover 85% of total population, including those in remote areas, increase internet speed and support all types of services on smartphones and tablets. dtac has improved signal quality in congested areas by adding both macro sites and micro sites to increase coverage, especially in areas with rapid smartphone growth and high 3G demand.
Jon added, “Today, dtac TriNet is ready to launch 4G LTE on 2100 MHz and deliver enhanced experience to customers. dtac has also prepared the most advanced technology for inner Bangkok areas with high internet traffic, including Rama IV, Sathorn, Silom, Klongtoey, Sutthisan, Ratchadapisek, and Din Daeng. When dtac TriNet customers enter 4G coverage, the phones will automatically switch to 4G LTE on 2100 MHz and switch frequency bands according to customers’ usage. Additionally, 4G LTE customers will experience better data services, including video, movie, and content download, new applications, such as dtac Watchever, dtac Readever, or dtac DEEZER. The 4G LTE will also help offload 3G data traffic and improve performance in congested areas. We target to have 1 million 4G LTE subscribers by the end of this year.”
Believing that the internet provides equal access to information and, hence, equal opportunities to everyone, dtac announced ‘Connecting Everyone by 2015 – Internet for All’ mission that aims to give all dtac customers internet experience on mobile phones or tablets, thus raising the quality of life, strengthening the overall competitiveness of the country, and bridging the gap in technology access (Digital Divide).
Posted with Noot010
Google Plus
Facebook
Wordpress