จันทบุรี ถิ่นนี้มีมนต์ขลัง ตอนที่ 2

หลังจากที่พวกเราเหน็ดเหนื่อยจากการเที่ยวชมในรั้วทหารกันแล้ว เราก็หลบมาพักเหนื่อย กันที่ ร้านอาหารเวียดนามชุมชนวัดญวน จิบกาแฟ พร้อมกับทานของว่าง เอริ่ม จริงๆถือว่าเป็นมื้อหนักได้เลยนะนี่ แบบนี้เรียกว่าอาหารว่างตรงไหนหว่า

กาแฟของที่นี่ใช้กาแฟคุณภาพดีจากเวียดนามจริงๆ เสริฟมาแบบสไตล์เวียดนามเปะๆ ที่ปล่อยให้กาแฟค่อยๆหยดลงมา มาพร้อมกับ ไข่กะทะ และ ขนมปังบักเก็ตใส่ไส้ ทุกเมนูอร่อยมากคะ แม้พวกเราจะยังอิ่มอาหารกลางวันกันอยู่

เพียงแค่เห็นรูปก็ทำเอาน้ำลายสอ เพียงแค่นี้ก็เติมพลังให้กับพวกเราได้มีแรงเที่ยวกันต่อไป ต้องขอบคุณทางร้านอาหารเวียดนามชุมชนวัดญวน ด้วยนะคะ ที่ให้การต้อนรับพวกเราเป็นอย่างดีจริงๆ ถ้ามีโอกาสกลับไปจันทบุรีอีกคงไม่พลาดที่จะไปเยี่ยมเยือนกันแน่นอนคะ

สำหรับร้านนี้หาไม่ยากคะ อยู่ใกล้ๆกับ โบสถ์วัดโรมันคาทอลิก ซึ่งเป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวของพวกเราในทริปนี้ด้วยคะ โบสถ์นี้ดังมากคะ เพียงแค่นุทโพสภาพไปก็มีน้องๆที่เป็นชาวคริสต์ก็เข้ามาแนะนำทันทีว่าอย่าได้พลาดในการเข้าไปชมภายในโบสถ์นี้

โบสถ์วัดโรมันคาทอลิก

ตั้งอยู่ในบริเวณโรงเรียนสตรีมารดาพิทักษ์ ถนนสันติสุข ตำบลจันทนิมิตร เป็นโบสถ์ที่มีประวัติการก่อสร้างยาวนานถึง 275 ปี ครั้งแรกสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2254  บนฝั่งตะวันตกของแม่น้ำจันทบุรี โดยคุณพ่อเฮิ้ต โตแลนติโน และบรรดาคาทอลิกชาวญวน  จนถึงปี พ.ศ. 2377 ได้มีการย้ายมาสร้างบนฝั่งตะวันออกของแม่น้ำจันทบุรีอันเป็นสถานที่ตั้งใน ปัจจุบัน โดยมิได้มีการบันทึกถึงสาเหตุของการย้ายแต่ประการใด และในปี พ.ศ. 2446 ได้ก่อสร้างโบสถ์หลังปัจจุบันขึ้นให้มีขนาดใหญ่กว่าหลังเก่าเพื่อรองรับกับ จำนวนคริสตศาสนิกชนที่เพิ่มมากขึ้น โดยมีลักษณะเป็นสถาปัตยกรรมตะวันตกแบบโกธิค ภายในตกแต่งด้วยกระจกสีที่เรียกว่า  สเตนกลาส เป็นภาพนักบุญต่าง ๆ หลังจากนั้นได้มีการบูรณะซ่อมแซมมาโดยตลอด จนถึงปี พ.ศ. 2528 ได้มีการจัดงานฉลองโบสถ์คาทอลิกจันทบุรีครบรอบ 75 ปี นับได้ว่าโบสถ์คาทอลิกแห่งนี้เป็นโบสถ์ขนาดใหญ่ที่มีความเก่าแก่และกล่าวกัน ว่ามีความงดงามมากที่สุดในประเทศ

เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 08.00-16.30 น. การเข้าชมเป็นหมู่คณะควรติดต่อล่วงหน้า โทร. 0 3931 1578

ซึ่งภายในโบสถ์นั้น สวยจริงๆคะ เป็นโชคดีของชาวทริปเรามากๆที่ได้เข้าไปชมความงามภายในโบสถ์พร้อมกับยินดีกับคู่รักที่มาทำพิธีสมรส สวยจังเลยอ่ะ

ชื่นชมความงามของโบสถ์กันอย่างหอมปากหอมคอกันแล้ว ตอนนี้เราก็จะทำการเดินเท้า อิอิ ใช้คำแบบทางทหารนิดนึงเนอะ เพื่อเข้าไปชมชุมชนริมน้ำจันทบูร

ประวัติชุมชนริมน้ำจันทบูร

ชุมชนริมน้ำจันทบูร เป็นชุมชนเก่าแก่มีอายุาวนานกว่า 300 ปี ตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ด้วยทำเลที่ตั้งเหมาะสม การคมนาคมสะดวก ทำให้มีคนไทย คนจีน และคนญวณ เข้ามาตั้งถิ่นฐานเป็นจำนวนมาก ทั้งข้าราชการ พ่อค้า คหบดี เกิดการผสมผสานทางวัฒนธรรมของคนต่างเชื้อชาติศาสนา

ในอดีตราว 100 ปีก่อน ย่านชุมชนริมน้ำจันทบูรมีความเจริญรุ่งเรืองมาก มีถนนสายแรกของจังหวัดคือถนนเลียบนที ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นถนนสุขาภิบาล หัวถนนคือย่านท่าหลวง เป็นชุมชนทางการค้าขาย การคมนาคมขนส่ง และเป็นที่ตั้งของส่วนราชการเรียกกันว่าตลาดเหนือ ตอนกลางเรียกว่าตลาดกลาง เป็นศูนย์กลางการค้าทั้งขายส่ง และขายปลีก มีท่าเรือสำหรับการคมนาคมขนส่งหลายท่า ตอนปลายถนนเรียกว่าตลาดล่าง เป็นศูนย์กลางการผลิตงานหัตถกรรมและค้าขายเบ็ดเตล็ด เช่น ทอเสื่อ ทำพลอย ตีเหล็ก รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ประมง อาหารคาวหวาน และขนมพื้นบ้านต่างๆ เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นที่อยู่อาศัยของกลุ่มคนญวณคาทอลิกและกลุ่มคนจีน

ในสมัยรัชกาลที่ 5 (พ.ศ.2442) เมืองจันทบูร ได้รับการจัดตั้งเป็นมณฑลจันทบูร และย่านท่าหลวงเป็นที่ตั้งของอำเภอท่าหลวง สมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เสด็จประพาสเมืองจันทบูรหลายครั้ง ครั้งสำคัญคือ พ.ศ.2419 และ พ.ศ.2450 แต่ละครั้งมีการสร้างท่าน้ำรับเสด็จประดับธงและประทีปโคมไฟอย่างงดงาม ริมน้ำจันทบูรจึงเป็นที่ตั้งฐิ่นฐานชุมชนที่มีความเจริญรุ่งเรืองเรื่อยมา นับจากอดีตจนถึงปัจจุบัน

ถนนเส้นนี้เป็นตลาดพลอยอันเลื่องชื่อของประเทศไทยอีกด้วยนะคะ ถนนเส้นนี้มีประวัติศาสตร์เยอะมากมายจริงๆ จนผู้อยู่อาศัยในท้องถิ่นรวมกลุ่มกันสร้างบ้านเรียนรู้ชุมชน เป็นที่รวบรวมประวัติต่างๆของภายในชุมชน อีกทั้งยังเป็น photo gallery ที่รวบรวมภาพสวยๆจากตากล้องมืออาชีพที่เก็บภาพบรรยากาศภายในชุมชนในช่วงเวลาต่างๆ โดยที่ภาพเหล่านั้นสามารถเล่าเรื่องราวของชุมชนแห่งนี้ให้กับผู้มาเยี่ยมชมได้รับรู้ถึงวิถีชีวิตของคนเมืองจันท์

สำหรับที่นี่แอบประทับใจ ที่การสร้างบ้านหลังนี้เป็นการรวมตัวของคนในชุมชนกันเองโดยที่ไม่ได้มีหน่วยงานจากภาครัฐเข้ามาเกี่ยวข้อง นี่แหละคะที่เค้าเรียกว่าชุมชนเข้มแข็ง สำหรับการบริหารด้านการเงินก็จะมีเพียงเงินที่ได้รับบริจาคจากผู้ที่มาเยี่ยมชมภายในบ้านเท่านั้น เก่งจริงๆคะ ขอปรมมือให้

จบการเดินทางเยี่ยมชมชุมชนแห่งนี้ด้วยหยาดฝนที่กระหน่ำลงมาอย่างหนัก ทำให้พวกเราไม่สามารถดื่มด่ำกับบรรยากาศได้อย่างจุใจเท่าที่ควร อีกทั้งถึงเวลาอันสมควรที่พวกเราควรเดินทางกลับที่พัก เพื่อไปพักผ่อน ก่อนจะออกมาดินเนอร์ สำหรับตอนนี้นุทคงต้องขออำลาเพื่อนๆเพียงเท่านี้ก่อนนะคะ แล้วพบกับ จันทบุรี ถิ่นนี้มีมนต์ ตอนต่อไปกันนะคะ

Loading Facebook Comments ...

4 Comments

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *