เมื่อนุทลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเอง ตอนที่3

หลังจากการที่เราค่อยๆเริ่มเปลี่ยนตัวเองในหลายๆเรื่อง จนมาวันนี้เรื่องที่สำคัญที่สุด และยากที่สุดสำหรับตัวเองนั่นคือ การลดน้ำหนัก ได้ยินไม่ผิดหรอกคะ ลดความอ้วนนั่นเอง มันเป็นสิ่งที่ยากสุดๆสำหรับหลายๆคน แต่ก็คิดมาตลอดว่ามันอยู่ที่ใจ จะบอกว่าแรงบันดาลใจหลักๆก็คงจะจากการได้ดู #goodshapesavecost ของ @johnwinyu ลองทำดูสักสามเดือน ไม่ลดมันก็ไม่มีไรจะเสียนิเนอะ

อยากเล่าเรื่องของการลดความอ้วนมาก่อนต้องบอกว่าสำหรับนุท โดยปกติจะเป็นคนที่กินเก่งมาก ชอบพวกขนมปัง เค้ก ไอศครีม น้ำหวาน แล้วก็พวก buffet ต่างๆ ยังดีที่ตัวเองยังเป็นคนที่กินผักและผลไม้ เยอะ น้ำหนักก็จะลดๆเพิ่มๆมาตลอดตั้งแต่เรียนชั้นนายร้อย ชั้นนายพัน ตอนเรียนก็ผอม พอเรียนจบมันก็อ้วนขึ้น พยายามออกกำลังกายมาตลอด เล่นกีฬามันทุกอย่าง จนถึงขนาดฝังเข็มลดความอ้วนก็แล้ว ดัดฟันเหรอก็ผ่านมา ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย

รูปนี้เป็นรูปที่รู้สึกว่าไม่เหมือนตัวเองมากที่สุด เพราะช่วงนั้นมันผอมลงไปเยอะ แต่ก็ไม่ได้ชั่งน้ำหนัก แต่สังเกตจากเสื้อผ้าที่ใส่กับหน้า ก็รู้สึกว่าผอมลง แต่จากนั้นมันก็ขึ้นจนลิมิตไม่อยู่ เวลาถ่ายรูปก็จะถ่ายแต่หน้าหลบแขน เพราะต้นแขนใหญ่มากๆ แต่แล้วเราจะปล่อยให้มีคนวิจารณ์ว่าเรา จิกกัดว่าอ้วนอยู่ตลอดเวลาเหรอ ผู้หญิงนะคะ จะอย่างไรก็ทนฟังไม่ได้หรอก แม้ว่าจะมีคนชมว่าสวย แต่เราก็จะรู้ตัวเอง ไหนจะการเลือกซื้อเสื้อผ้าซึ่งหายากมากอีก เอาละคะ เมื่อมุ่งมั่น ต้องทำให้ได้ คุณจอห์น บอกทุกอย่างมันอยู่ที่ใจเราจริงๆ และก็คิดว่าถ้าไม่จริงจังสักที มันไม่มีทางลดหรอก

เมื่อลองมุ่งมันกันดูคะ จากการที่เราต้องคำนวนแคลอรี่ในทุกอย่างที่เราต้องกินเข้าไปในทุกๆวันทำงัยก็ได้คะ พยายามกินให้น้อยที่สุดต่อวัน ช่วงเช้า นุทจะค่อยๆปรับเป็น ดื่มกาแฟดำใส่น้ำตาลเทียม อันนี้คุณจอห์นบอกเราว่าเราต้องการกาแฟ หรือความหวานกันแน่ ค่อยๆปรับคะ จนตอนนี้ดื่มกาแฟดำไม่ใส่น้ำตาลเลยก็ได้ แรกๆช่วงเช้านุทอาจจะทานขนมปังโฮลวีทสักแผ่น หรือบางวันก็จะเป็นเกาเหลาผักเยอะๆ ระหว่างวันจนเที่ยงจะดื่มแต่น้ำทั้งวันจริงๆ วันแรกๆรู้สึกแย่มากคะ แต่ก็ต้องอดทน จนถึงช่วงเที่ยง ก็จะทานแต่เกาเหลาผักเยอะๆไม่ปรุงรสชาติใดๆทั้งสิ้นนะคะ ร้านใส่มาแบบไหนก็เท่านั้น บางวันถ้ารู้สึกหิวก็จะใส่วุ้นเส้นเข้าไปเพิ่มนิดหน่อยเท่านั้นคะ แล้วก็ดื่มน้ำเปล่ากันคะ ดื่มไปเยอะๆจนเย็น โอ๊ย อย่างโหย แต่อยู่ที่ใจคะท่องไว้ๆ ไม่งั้นจะไม่ได้อะไร จนมื้อเย็นก็จะทานเป็นส้มตำ หรือโยเกิร์ต กับแอปเปิ้ล บางวันก็กินจิ้มจุ่มใส่ผักเยอะๆ หรือสุกี้ กินแบบนี้ทุกๆวันๆ คำนวนแคลอรี่ตลอดเวลา ในสิ่งที่จะกินเข้าไป ลองคิดดูนะคะ ที่กินเข้าไปอย่างโยเกิร์ตถ้วยนึงราวๆ 100 กิโลแคลอรี่ กว่าเราจะเผาผลาญหมด วิ่งไปสัก 20-30 นาทีแนะ อย่างเหนื่อย เนื่องจากเรากินน้อยอยู่แล้วอาจจะไม่ต้องออกกำลังกาย แต่ปรับการใช้ชีวิตของเราเป็นเดินเยอะๆ แต่ถ้าท่านใดอยากลดลงเร็วๆอาจมีการออกกำลังควบคู่กันไปด้วยได้คะ จากการคำนวนแคลอรี่นี่ละคะทำให้การที่เราต้องเลือกที่จะกินอะไรเยอะกว่าปกติ อดทนคะบอกได้คำเดียว ให้เวลาตัวเองอย่างน้อย 3 เดือน แล้วมาดูผลกัน คนอื่นทำได้ เราต้องทำได้

หลังจากนั้นคุณจะรู้ว่าเราควรจะกินอะไรเมื่อไร เท่าไร จนตอนนี้นุทน้ำหนักลดลงมาเกือบจะ 7 กิโลแล้ว ภายใน 3 เดือน แอบเสียเวลาช่วงป่วยไปบ้าง แต่ไม่เป็นไรคะ สู้ๆกันต่อไป หลังจากนี้นุทเองก็กินเยอะๆไม่ได้อีกแล้ว กินเยอะทีไรจะปวดท้องและถ่ายท้องทันทีเลยคะ เมื่อนุททำได้ก็อยากให้กำลังใจเพื่อนๆทุกๆคนคะว่าทำได้แน่นอน เพื่อสุขภาพที่ดีของทุกๆคนคะ สู้ๆคะ คุณทำได้ นุทเองก็จะมุ่งมั่นลดต่อไปคะ