“ฮาว ทู เลิฟ” บันทึกรักฉบับ TrueMoney ทำอย่างไรให้ไม่ตกเป็นเหยื่อรัก ลวง หลอก (โอน)

มีคู่รักจำนวนไม่น้อยพบรักแท้และพัฒนาความสัมพันธ์บนโลกออนไลน์มาสู่การใช้ชีวิตจริงด้วยกัน แต่ก็มีจำนวนมากที่ต้องเจอกับความผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำอีก

ความรัก (อาจ) ทำให้เราตาบอดประโยคนี้ไม่เกินความจริงหรือมองโลกในแง่ร้ายเสียทีเดียว ยิ่งเราอยู่ในยุคที่โลกหมุนไวตามกระแสอินเทอร์เน็ตที่นับวันจะมีความรวดเร็วและอำนวยความสะดวกให้กับเรามากขึ้นเรื่อย  จนทำให้การสร้างความสัมพันธ์กับใครสักคนไม่ใช่เรื่องงมเข็มในมหาสมุทรอีกต่อไป เพียงปัดจอโทรศัพท์ไปซ้ายหรือไปขวา ก็จะพบใครบางคนในโลกโซเชียลที่ตรงใจและสามารถพัฒนาความสัมพันธ์ต่อได้ ตั้งแต่การแชทพูดคุย ส่งรูปภาพหรือเปิดวิดีโอคอลหากันก็รวดเร็วจนบางครั้งคนรุ่นก่อน  ตั้งคำถามให้กับนิยามความสัมพันธ์โรแมนติกของคนรุ่นใหม่ว่า รัก WiFi (ไวไฟ)”

 

ซึ่งช่องทางเหล่านี้ก็ตอบรับกับพฤติกรรมคนยุค Gen Y และ Gen Z ที่มีความคิดเป็นอิสระ กล้าหลุดออกจากกรอบ กล้าแสดงออก และชอบที่จะมีชีวิตที่มีสีสันบนโลกโซเชียลได้เป็นอย่างดี ดังนั้นการมีปฏิสัมพันธ์และแสดงอารมณ์ความรู้สึกและความรักผ่านการใช้เทคโนโลยี จึงถือเป็นส่วนสำคัญในการสร้างความสัมพันธ์ของคนรุ่นใหม่ ซึ่งเมื่อประกอบกับความนิยมเทคโนโลยีในด้านอื่น ที่พุ่งสูงมากขึ้นเรื่อย อาทิ การใช้จ่ายและทำธุรกรรมออนไลน์ที่ทำได้รวดเร็ว เราจึงได้เห็นข่าวเหยื่อความสัมพันธ์บนโลกออนไลน์ ที่โดนมิจฉาชีพลวงรักลวงหลอกให้โอนเร็วโอนไวอยู่บ่อย มากขึ้นเช่นกัน

 

ข้อมูลจากงานวิจัยของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ร่วมกับคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เผยอย่างน่าตกใจว่าการหลอกลวงแบบโรมานซ์สแกม หรือภัยแฝงที่มาจากการพบรักในโลกออนไลน์ เช่น หลอกให้รักแล้วโอนเงินนั้นมีมูลค่าความเสียหายถึง 6 พันล้านบาท สูงเป็นอันดับสองรองจากการหลอกลวงเป็นผู้รับเงินทางอีเมล และช่วงมิถุนายน ปี 2561 – พฤษภาคม ปี 2562 ประเทศไทยมีผู้ร้องทุกข์จากกรณีดังกล่าวมากกว่า 300 ราย เสียหายกว่า 190 ล้านบาท โดยช่องทางยอดนิยมที่มิจฉาชีพใช้เป็นเครื่องมือล่อลวงเหยื่อ ได้แก่ โซเชียลมีเดีย และเว็บไซต์หาคู่ต่าง 

ทั้งนี้ ขั้นตอนที่มิจฉาชีพใช้ก็มีหลากหลาย แต่ทุกวงจรการหลอกลวงท้ายที่สุดนั้นก็นำไปสู่จุดประสงค์หลักในการหลอกเอาเงินหรือหลอกเอาข้อมูลส่วนตัวของคุณเพื่อไปทำธุรกรรมทุจริตนั่นเอง โดย ขั้นตอน รัก ลวง หลอก (โอน) ผ่านธุรกรรมออนไลน์ที่มิจฉาชีพใช้ส่วนใหญ่มักผ่าน 3 วงจร ดังนี้

รู้ไว้ใช่ว่า พฤติกรรมแบบใดเข้าข่ายตกเป็นเหยื่อ รัก ลวง หลอก (โอน) 

จากสถิติพบว่า ผู้หญิง ตกเป็นเหยื่อ มากกว่า ผู้ชาย ที่สัดส่วน 86% ต่อ 11% ที่เหลือเป็นเพศทางเลือก ราว 3% แต่หลากหลายกรณีที่ผู้ชายตกเป็นเหยื่อแล้วมักเปย์เสียหายหนักกว่าหลายเท่า อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าเป็นเพศไหน หากมีพฤติกรรมเสี่ยงเหล่านี้ก็อาจตกเป็นเหยื่อได้เช่นกัน

 เผยตัวตนบนโลกโซเชียลเป็นประจำ 
 ชอบชร์เรื่องราวส่วนตัว อารมณ์ ความรู้สึก 
 โพสต์รูปถี่ ว่าไปไหนมาไหนมาบ้าง (3 นาที 4 สเตตัส) 
 ขี้เหงา ขี้สงสาร อ่อนไหวง่ายกับประโยคหวาน  คำคม รูปภาพสวย และคลิปวิดีโอออดอ้อน 
 โลกสวย คิดบวกเข้าข้างตนเองเสมอ 
 เชื่อใจคนง่าย ต้อนรับทุกคนเป็นเพื่อน
 เข้าแอป หาคู่ ปัดซ้ายปัดขวา เป็นประจำ 
 กดติดตาม กดไลค์ หนุ่มหล่อ สาวสวย หุ่นดี โปรไฟล์หรู 
 สถานะโสด เป็นหม้าย แสดงตนเป็นสายเปย์ 
 อัธยาศัยดี บริหารเสน่ห์ไปเรื่อยบนโซเชียล

จากสารพันกลโกงที่กล่าวมา TrueMoney ในฐานะผู้ให้บริการ e-Wallet ตระหนักดีถึงความเสี่ยงที่ผู้ทำธุรกรรมออนไลน์และผู้ใช้อีวอลเล็ทต้องพบเจอ จึงมีข้อแนะนำฮาว ทู เลิฟให้ไม่โดนหลอกโอนฉบับ TrueMoney มาให้เพื่อรับเทศกาลแห่งความรักที่กำลังจะมาถึง ดังนี้

 

 อย่าปล่อยให้อารมณ์มีอำนาจเหนือสติ ภาวะทางอารมณ์ที่หลากหลาย รัก โลภ โกรธ หลง ล้วนมีพลังทำลายล้างที่สูงมากต่อสติที่เราพึงมี หากใครก็ตามที่ปล่อยให้อารมณ์รักอยู่เหนือเหตุผลและความถูกต้องแล้วล่ะก็ อาจจะนำภัยมาหาตัวเองก็เป็นไปได้ ในทางกลับกัน การเปิดเผยตัวตนบนโลกออนไลน์มากเกินไป เพราะต้องการให้คนมารักมาสนใจ ก็อาจนำพามาซึ่งความเสี่ยง โดย 9 ข้อนี้คือข้อมูลส่วนตัวชั้นดีที่เหล่านักต้มตุ๋นใช้ในการคัดเลือกเหยื่อรายต่อไป
o การใช้ชื่อนามสกุลจริงแบบเต็ม  
o สถานะความสัมพันธ์โสด 
o รสนิยมทางเพศ
o ID ในโปรแกรมสนทนาต่าง  
o e-mail address หรือเบอร์โทรศัพท์ 
o ที่อยู่ออนไลน์ของบริการอื่น  ใน social network หรือ blog
o สิ่งที่เราสนใจ หรือกิจกรรมที่เราชื่นชอบ
o รูปภาพของเรา
o วิดีโอของเรา

 

 การมองโลกความเป็นจริง ไม่ใช่การมองโลกในแง่ร้ายทำตัวเป็นเจ้าหนูจำไมและใช้ทักษะในการตรวจสอบ Search Search Seach สืบเสาะหาข้อมูลของบุคคลที่เข้ามาขายขนมจีบกับคุณและหัดตั้งคำถามกับตัวเองและคนที่เข้ามาคุยด้วยอย่างจริงใจตรงไปตรงมาเพื่อวิเคราะห์ถึงความน่าจะเป็น
 ทักษะการเป็นนักสืบจะมีประโยชน์มากเพราะจะทำให้คุณสังเกตโปรไฟล์อย่างเจาะลึก เช่นว่าคนนั้นมีเพื่อนเยอะแค่ไหน ใครแท็กหรือคอมเมนต์รูปบ้าง วันเกิดมีเพื่อนมาอวยพรหรือแท็กรูปไหม การตั้งข้อสังเกตทำให้เรายั้งไว้ทัน ไม่หลงคารมอะไรของใครง่าย  
 ลองเอาชื่อโปรไฟล์ไปเสิร์ชกูเกิลแล้วได้ผลลัพธ์มาดูว่าสอดคล้องกันหรือไม่ หรือเซฟรูปจากโซเชียลมีเดียไปค้นหาในกูเกิลเลือกค้นรูปอาจโป๊ะแตกเจอเจ้าของภาพตัวจริงที่ถูกสวมรอยมาก็ได้
 มิจฉาชีพออนไลน์มักไม่ชอบเผชิญหน้า ถึงแม้เป็นญาติมิตรคนรู้จักติดต่อมาขอให้โอนเงินให้ ลองชวนเปิดกล้องขอ VDO Call เลยว่ากล้าไหม หรือลองบอกว่าจะส่งของไปให้ จากนั้นก็ขอที่อยู่ ถ้าอิดออดไม่ยอมให้ อ้างโน่นนี่สารพัดสิ่ง ให้มั่นใจเลยว่าปลอมชัวร์

 

 พิจารณา ไตร่ตรอง คำตอบว่า Make sense หรือไม่ หากยังมีเพียงแค่ 0.01% ที่ไม่มั่นใจอาจจะเป็นเพราะ sense คุณกำลังทำงาน ให้ลองตั้งคำถามใหม่และไตร่ตรองอีกครั้ง เพราะบางครั้งคำตอบที่ได้มาจากคนที่เรา (หรือเพิ่ง) พบกันในโลกออนไลน์อาจจะไม่เหมือนที่เคยบอกเรามา หรือสร้างความประหลาดใจให้เรากับคำถามใหม่ก็เป็นได้เช่นตอบเป็น pattern เดิม   หรือตอบเหมือนหุ่นยนต์ chatbot  

 

จะเห็นได้ว่าแม้ผู้ให้บริการธุรกรรมออนไลน์หรืออีวอลเล็ทจะพัฒนาเทคโนโลยีความปลอดภัยแค่ไหน แต่ถ้าเจ้าของข้อมูลหรือบัญชีหละหลวมในการเฝ้าระวังและเชื่อคนง่ายก็จะเป็นผู้เปิดกระเป๋ายื่นทรัพย์สินที่มีให้กับมิจฉาชีพเองกับมือ แต่การจะแก้ปัญหาบอกว่างั้นเลิกใช้เทคโนโลยีพวกนี้ทั้งหมดก็ดูจะเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ เพราะข้อดีของเทคโนโลยีก็ยังมีมาก อีกทั้งไม่ได้แก้ที่รากของปัญหา ซึ่งก็คือพฤติกรรมและความรู้ความเข้าใจในการใช้โลกออนไลน์อย่างปลอดภัยและให้ได้รับประโยชน์สูงสุดจากเศรษฐกิจแบบดิจิทัลนั่นเอง

 

ทรูมันนี่ห่วงใยในความปลอดภัยของผู้ใช้บริการทุกท่าน กรณีพบพิรุธหรือความผิดปกติเกี่ยวกับบัญชีของคุณ สามารถติดต่อ TrueMoney Customer Care เบอร์ 1240 หรือ Call Center ธนาคารเจ้าของบัญชีท่านได้ตลอด 24 ชม. หรืออ่านเงื่อนไขการให้บริการเพิ่มเติมที่ https://www.truemoney.com/terms-conditions/

Loading Facebook Comments ...

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *